คุณสมบัติของสติ๊กเกอร์แต่ละชนิด และการเลือกสติ๊กเกอร์ให้เหมาะสมกับงาน
โจทย์แรกของเรื่องนี้ คือเราต้องทราบก่อนว่า เราต้องการทำงานอะไร เพื่อขยายวัตถุประสงค์ที่ต้องการออกไปให้สามารถวางแผนได้ เช่น การเราต้องการสร้างออฟฟิศใหม่ หรือรีโนเวทออฟฟิศใหม่ เราอาจต้องรู้ทุนที่มี ว่าจะทำอะไรได้แค่ไหน และค่อยปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ เช่น สถาปนิค หรือนักตกแต่งภายใน หรือหากต้องการสร้างสินค้าขึ้นมาซัก 1 ชิ้น เราก็จำเป็นต้องรู้กระบวนการสร้างสินค้าในทุกองค์ประกอบที่เกี่ยวข้อง หรือไม่ เราก็ต้องจัดหาผู้ที่จะมาดูแลให้แทนได้ก่อน
เมื่อโจทย์มีให้เช่นนี้ เราก็จะทราบองค์ประกอบรวมๆ ของงานแล้วว่า จะมีอะไรที่เกี่ยวข้อง ประกอบกันเป็น 1 ชิ้นงานนั้น
องค์ประกอบต่างๆของการพิมพ์สติ๊กเกอร์ มีปัจจัยที่จะต้องคิดถึงประกอบกันไปด้วยเสมอ ก่อนที่จะปลุกปั้นจนเกิดเป็นภาพจริงได้ เช่น แนวคิด, ราคา, คุณภาพ, การออกแบบ, ข้อดี, ข้อเสีย, ข้อแม้ใดๆ, ไปจนถึงวัตถุดิบและกรรมวิธีให้ได้มา
ดังที่เรารู้กันอยู่ว่า ในท้องตลาด องค์ประกอบใดๆ ที่เราค้นหา มักมีทางเลือกให้เราเลือกมากมาย ด้วยหลายๆ เหตุผลประกอบเข้าด้วยกัน จนสามารถจำกัดความทางเลือกให้แคบลง จนได้ผลลัพท์ดังที่เราต้องการ เช่น เมื่อทราบงบประมาณ เราก็จะทราบได้ว่า เราควรใช้วัสดุแบบไหน ระดับราคาเท่าไหร่, การใช้งาน หากต้องการงานหนัก ทนแรงกระแทก หรือทนแดด ทนฝน เราก็ต้องหาวัสดุที่แข็งแรง ทนทาน มากกว่าแค่ความสวยงามแต่เพียงอย่างเดียว หรือข้อจำกัด ข้อจำเพาะของการใช้งาน เช่น ต้องอยู่กับความร้อนตลอดเวลา, โอกาสเปียกน้ำมีบ่อยครั้ง, ต้องการความยืดหยุ่นสูง อะไรเหล่านี้ ก็จะเป็นข้อกำหนดคุณสมบัติขององค์ประกอบที่เราต้องค้นหาให้แคบลงได้มาก
วัตถุประสงค์ในการใช้งานสติ๊กเกอร์แต่ละประเภท
การทำสติ๊กเกอร์ก็เช่นกัน ทุกครั้งที่คุณคิดทำสติ๊กเกอร์ขึ้นมาสัก 1 ชิ้น คุณย่อมมีวัตถุประสงค์ในการใช้งานที่ชัดเจนแล้ว ดังนั้น ที่เหลือก็แค่ทำความรู้จักหรือทำความเข้าใจกับระบบการพิมพ์สติ๊กเกอร์ และวัสดุที่ต้องการพิมพ์สติ๊กเกอร์ให้ถูกต้อง เหมาะสมกับการใช้งานที่ต้องการ รวมทั้งงบประมาณที่พอเหมาะกับชิ้นงาน ไปจนถึงรูปแบบที่ตรงกับวัตถุประสงค์ของสินค้าหรือคอนเซปท์ของสินค้า
เหตุผลที่เป็นเช่นนี้ เพราะในวัตถุประสงค์เดียวกัน คุณอาจพบทางเลือกมากว่าแค่ 1 ทางเลือก ดังนั้น คุณอาจจำเป็นต้องรู้เพิ่มเติมไปว่า เทคนิค หรือวัสดุแบบไหน จะเพิ่มคุณค่าให้กับสินค้าของคุณได้มากกว่า หรือสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้กับสินค้าของคุณได้มากกว่า นั่นก็เป็นปัจจัยเพิ่มเติมที่สามารถนำมาคิดเพิ่มได้จากความต้องการพื้นฐานโดยทั่วไป ดังจะเห็นได้ว่า แพคเกจของสินค้าบางชนิด เช่น น้ำหอม หรือนาฬิกา ถูกออกแบบให้สวยงามและดูราคาแพง ถ้าคิดถึงเหตุผลพื้นฐาน เราอาจคิดได้ว่า ทำไมต้องเสียเงินไปกับปัจจัยที่ไม่ใช่ความต้องการหลัก ลูกค้าอาจสนใจแค่น้ำหอมข้างในกล่อง ทำไมต้องทำกล่องแพงๆ ให้เพิ่มต้นทุนขึ้นไป แต่ความจริงแล้ว แพคเกจที่หรูหรา ดูแพง วัสดุและเทคนิคการพิมพ์ชั้นยอด จะย้อนกลับมาสร้างมูลค่าให้กับสินค้าได้ด้วย ในทางกลับกัน สินค้าที่คุณภาพไกล้เคียงกัน แค่แพคเกจหรือการออกแบบขวด ฉลากสินค้า โลโก้ ทำได้ดูดีกว่า มีรสนิยมกว่า อาจทำให้สินค้านั้นขายได้ราคาแพงกว่า และเป็นที่นิยมของคนทั่วไปมากกว่าก็ได้
ดังนั้น คุณสมบัติของสติ๊กเกอร์แต่ละชนิด จึงมีการใช้งานที่แตกต่างกัน การตั้งต้นเลือกเฉพาะแต่แค่บางเงื่อนไข จึงไม่อาจใช้วัดความเหมาะสมได้ในทุกชนิดงานได้ วิธีที่เหมาะสมที่สุดคือ เข้าใจความจำเป็นของการใช้งาน ไปจนถึงการเลือกคุณภาพให้งานออกมาเป็นชิ้นงานที่ดีที่สุด เพื่อตอบโจทย์ของการขายสินค้าได้ดีที่สุดด้วย
สติ๊กเกอร์มีกี่ประเภท แต่ละประเภทมีการใช้งานที่แตกต่างกัน
สติ๊กเกอร์พีวีซี (PCV Sticker)
สติ๊กเกอร์ชนิดนี้ มีความคงทน แข็งแรง เนื้อเหนียว ทนน้ำและทนแดดได้เป็นเวลานาน หากพิมพ์ด้วยหมึกกันน้ำ ก็จะครบคุณสมบัติการกันน้ำได้ 100% มีเนื้อสติ๊กเกอร์ให้เลือกหลายแบบ เช่น สติ๊กเกอร์พีวีซีขาวเงา, สติ๊กเกอร์พีวีซีขาวนวล, สติ๊กเกอร์พีวีซีใส, สติ๊กเกอร์พีวีซีกาวเหนียวพิเศษ และสติ๊กเกอร์พีวีซีรูปแบบอื่นๆ อีกหลากหลาย ทนความร้อนได้ไม่สูงมากนัก ประมาณ 40-60 องศา ซึ่งถ้าเป็นอุณหภูมิแดดปกติ ก็สามารถทนได้ดี มีทั้งแบบแผ่นและแบบม้วนเพื่อการรองรับเครื่องพิมพ์ได้หลากหลาย รวมทั้งการเข้าเครื่องไดคัท ก็สะดวก เพราะมีเนื้อนิ่ม ไม่กินใบมีดมากนัก อีกทั้งยังเคลือบได้อีกหลายแบบ ทั้งลามิเนตและยูวี จึงสามารถนำไปใช้งานได้หลากหลายรูปแบบ ตั้งแต่สติ๊กเกอร์โลโก้ที่ใช้ติดลงบนสินค้า, สติ๊กเกอร์ฉลากสินค้า, สติ๊กเกอร์ติดกระจก, สติ๊กเกอร์ติดผนัง และอีกมากมาย
สติ๊กเกอร์พีพี (PP Sticker)
คงทนและแข็งแรง, โดนน้ำได้, เนื้อสติ๊กเกอร์เรียบเนียน ละเอียดกว่า แต่มีราคาแพงกว่าอยู่พอสมควร จึงมักนิยมใช้ในงานขนาดเล็กลงมา และต้องการความสวยงาม ละเอียด เช่น เป็นสติ๊กเกอร์สำหรับติดขวดเครื่องสำอางค์, สติ๊กเกอร์ติดกระปุกครีม, สติ๊กเกอร์ติดสินค้าที่หรูหรา ราคาแพง มีเนื้อสติกเกอร์ให้เลือกอยู่ 3 แบบคือ สติ๊กเกอร์พีพีใส,สติ๊กเกอร์พีพีขาวเงา, สติ๊กเกอร์พีพีด้าน สามารถทนความร้อนได้ถึง 90 องศา เปียกหรือโดนน้ำได้ 100% เข้าเครื่องไดคัทได้ มีทั้งแบบแผ่นและแบบม้วน
สติ๊กเกอร์เนื้อพีอีที (PET Sticker)
สติ๊กเกอร์ที่ทนความร้อนได้สูงถึง 140-200 องศาเซลเซียส นิยมนำไปใช้กับพื้นที่ติดตั้งเฉพาะทาง เช่น เครื่องใช้ไฟฟ้า, เครื่องจักร ที่มีความร้อนในตัว เปียกหรือโดนน้ำได้ 100% มีราคาค่อนข้างแพงกว่าสติ๊กเกอร์แบบอื่นๆ
สติ๊กเกอร์สูญญากาศ (Vacuum Sticker)
เนิยมใช้ติดกระจก โดยเฉพาะกระจกรถยนต์ หรือสติ๊กเกอร์อนุญาตจอดรถ หรือติดเพื่อใช้ในงานโฆษณาต่างๆ เพราะเป็นชนิดที่ไม่มีกาวในตัวเอง แต่มีความยืดหยุ่นสูง เนื้อเรียบ พื้นผิวที่มีความพรุนน้อย (Non-Porous Surface) เมื่อติดกับพื้นวัสดุที่มีเนื้อเรียบ โดนเฉพาะกระจก จึงสามารถติดแนบกระจกได้ดี และยังลอกออกและติดใหม่ได้หลายครั้งหากไม่โดยฝุ่นหรือมีคราบสกปรกเกิดขึ้น เมื่อลอกออก จึงไม่มีคราบกาวหลงเหลือ สามารถใช้ติดแบบไม่ติดถาวรได้ดี หากไม่โดนสัมผัสหรือลอกเข้า-ออกบ่อย ก็จะสามารถติดอยู่ได้นาน สามารถพิมพ์ลวดลายได้ทั้งระบบอิงค์เจ็ตและดิจิตอลออฟเซตได้ หรือหากต้องการความทึบแสง ยังสามารถพิมพ์สีแบบหลังขาวได้ คือการพิมพ์สีทึบสีขาวรองพื้น ก่อนพิมพ์สีจริงอีกครั้ง เป็นลวดลายได้ตามต้องการ
สติ๊กเกอร์ซีทรู (See Through Sticker)
การตกแต่ง หรือสื่อโฆษณา สำหรับติดกระจกสำหรับการมองระยะไกล สติ๊กเกอร์ซีทรูเป็นอีกตัวเลือกที่ดี สติ๊กเกอร์ซีทรู เป็นสติ๊กเกอร์ที่มีรูเล็กๆ สำหรับการมองผ่านในระยะไกล้ และดูเหมือนทึบในระยะมองไกล สามารถติดเพื่อเป็นลวดลายประดับอาคาร หรือเพื่อโฆษณาสินค้าไปในตัว โดยคนที่มองจากด้านนอกจะมองไม่ทะลุเข้ามาข้างใน แต่จะเห็นเป็นลวดลายพิมพ์ที่เราพิมพ์ไว้ ขณะเดียวกัน ถ้ามองจากด้านในระยะไกล้ ก็จะสามารถมองทะลุผ่านได้ จึงสามารถเอาไว้บังสายตาได้ด้วย
4 เหตุผลทำไมต้องเลือกเรา By อาร์ทปริ้นท์ จำกัด
การเลือกใช้วัสดุในงานพิมพ์สติ๊กเกอร์ก็เช่นเดียวกัน วัสดุบางชนิดมีราคาสูงกว่า แต่ให้คุณภาพที่ดีกว่ามาก สมมุติว่า คุณต้องการติดตั้งสติ๊กเกอร์ชิ้นนี้เพื่อโฆษณาสินค้าของคุณเป็นเวลา 2 ปี และคุณเลือกใช้สติ๊กเกอร์ที่มีอายุการใช้งาน 3 ปี นั่นจะรับประกันให้คุณได้แน่นอนว่า ผลงานโฆษณาของสินค้าของคุณจะไม่ซีดจางลงก่อนเวลาแน่ๆ แต่ถ้าคุณลดงบประมาณลงมาเป็นสติ๊กเกอร์ที่มีอายุการใช้งาน 1 ปี ในปีแรก คุณอาจได้คุณภาพการโฆษณาที่ไกล้เคียงกันกับแบบ 3 ปี แต่อีก 1 ปีที่เหลือ สติ๊กเกอร์โฆษณาของคุณซีดจางลงเรื่อยๆ จนซีดจางไปจนอ่านไม่ออกไปตั้งแต่ก่อนหมดอายุการติดตั้ง นั่นเท่ากับคุณขาดทุนไป 1 ปีเต็มๆ และกลายเป็นจ่ายน้อยจ่ายยากฯ ไปในที่สุด