พิมพ์สติ๊กเกอร์
คงปฏิเสธไม่ได้ว่า พิมพ์สติ๊กเกอร์ ถูกจัดให้ มีความสำคัญ อันดับต้นๆ ของการวางแผน ทางการตลาด ในยุค Marketing ในปัจจุบันมีคู่แข่งทางการค้าที่ขายสินค้าประเภทเดียวกันมากมายแต่ทว่า ผู้ที่จะมียอดขายที่เหนือคู่แข่งทางการค้าได้นั้น ต้องมีการต่อสู้กันด้วย สื่อทางการตลาด แนวคิดไอเดีย แบรนด์ แพคเกจจิ้ง และคอนเทนต์ การ ร้านพิมพ์สติ๊กเกอร์ ก็เป็นอีกรูปแบบหนึ่ง โครงการสร้างเอกลักษณ์ การสร้างแบรนด์ ให้เป็นที่จดจำ ให้เป็นจุดเด่น แนะนำมา ซึ่ง การเป็นที่รู้จักในกลุ่มเป้าหมาย และ การวางแผนที่ช่วยสร้างมูลค่าของสินค้าและเพิ่มผลกำไรจากยอดขายให้มีสถิติสูงขึ้นเรื่อยๆ นี่คือสาเหตุที่นักการตลาดมากมายให้ความสำคัญกับงาน พิมพ์สติ๊กเกอร์ นั่นเอง
พิมพ์สติ๊กเกอร์ คือ อะไร?
รูปแบบของการพิมพ์สติ๊กเกอร์ คือ ขั้นตอนการออกแบบ เป็นอันดับแรก ด้วยการออกแบบที่ดี จะต้องใส่ลักษณะเด่น ของสินค้าผลิตภัณฑ์หรือ สถานที่ หลังจากการออกแบบให้ตรงตาม Concept ของเจ้าของแบรนด์แล้วนั้น เลือกการวางแผนสำหรับการตีพิมพ์ว่าจะใช้วิธีใด ประเภทการพิมพ์อย่างไร โดยลักษณะชิ้นงาน หลังจากตีพิมพ์ออกมาแล้วนั้น ลักษณะเป็นตราสติ๊กเกอร์ โลโก้ ที่มีการออกแบบและการผลิตที่ต้องระบุขนาดรวมถึง ประเภทของการตีพิมพ์ที่มีให้เลือกหลายประเภทมีความแตกต่างกัน ขึ้นอยู่กับขนาดของแพ็คเกจจิ้ง ประเภทสินค้าลักษณะสภาวะอากาศที่วางสินค้าและความต้องการของเจ้าของแบรนด์ โดยมีหลักการของการเลือกประเภทของงาน พิมพ์สติ๊กเกอร์ ดังนี้
- หลักการของการเลือกประเภทงาน พิมพ์สติ๊กเกอร์ นั้นสิ่งสำคัญก็คือ ประเภทของสินค้า สถานที่ สำหรับการ จำหน่ายสินค้า
- คำนวณจากต้นทุนและกำไร หรือเจ้าของ มีการกำหนดต้นทุน เอาไว้ ให้เป็นงาน พิมพ์สติ๊กเกอร์ราคาถูก โดยเน้นที่ปริมาณ และคุณภาพที่พอใช้ได้ ไม่ถึงกับต้องนำวัสดุเกรด A มาใช้
- หลักการ ระยะเวลาในการใช้งาน ต้องการ สติ๊กเกอร์ในรูปแบบที่ติดทนนาน ทนสภาพอากาศได้ดี ระยะเวลาในการใช้ยาวนาน
งาน พิมพ์สติ๊กเกอร์ ที่ได้รับความนิยมตอนนี้ มี และมีลักษณะอย่างไรบ้าง?
งาน พิมพ์สติ๊กเกอร์ ในปัจจุบันมีรูปแบบหลากหลาย และถูกแบ่งแยกเป็นประเภทของวัตถุดิบและวิธีของการพิมพ์ เพื่อให้เกิดข้อเปรียบเทียบ และเพื่อให้เหมาะสมกับราคาต้นทุน กำไรสุทธินั่นเอง และการใช้งาน ของตัวโลโก้ หรือ สติ๊กเกอร์ก็มีส่วนในการเลือกประเภทการพิมพ์ด้วยเช่นกัน ผู้ประกอบการหรือเจ้าของแบรนด์นั้นมีความจำเป็นมากในด้านการวางงบประมาณสำหรับการลงทุนในส่วนนี้ สิ่งที่ต้องคือ ทำการบ้าน มาเป็นอย่างดีในการศึกษารายละเอียดของการทำสติ๊กเกอร์ศึกษาคุณสมบัติของกระดาษและอื่นๆอีกหลายข้อ เพื่อนำมาใช้ประกอบการตัดสินใจ และชี้แจงความต้องการในรูปแบบงานสติ๊กเกอร์ที่เราได้วาง Concept เอาไว้ให้ร้านที่เราจ้างตีพิมพ์ปริ๊นงานออกมาในลักษณะของการสื่อสารที่ตรงกันมากที่สุด โดยส่วนใหญ่ประเภทของตัวสติ๊กเกอร์และ โลโก้ต่างๆนั้น ที่ได้รับความนิยม เจ้าของแบรนด์สินค้าของผลิตภัณฑ์ต่างๆนั้นมักเลือกงานปริ๊นแบบไดคัทมาเป็นการใช้การ พิมพ์สติกเกอร์ฉลากสินค้า ซึ่งการปริ้นสติ๊กเกอร์ประเภทนี้นั้น มีลักษณะดังนี้ คือ
สติ๊กเกอร์ไดคัท คือรูปแบบของการ พิมพ์สติกเกอร์ ที่ได้รับความนิยมกันอย่างกว้างขวางในกลุ่มเจ้าของกิจการเจ้าของแบรนด์สินค้า เป็นการปริ๊นที่ใช้ระบบดิจิตอล ที่ผ่านการออกแบบให้ตรงกับความต้องการของลูกค้า ด้วยการสั่งตัดไดคัทให้มีรูปทรงตามแบบของขอบสติ๊กเกอร์หรือโลโก้มีลักษณะต่างๆ เช่น รูปวงกลมสี่เหลี่ยม สามเหลี่ยม เป็นต้น การปริ๊นรูปแบบนี้นั้นสามารถรอรับงาน ได้เลย หรือ เป็นการ พิมพ์สติ๊กเกอร์ด่วน ด้วยเทคโนโลยีของเครื่องพิมพ์ในงานประเภทนี้นั้น มีความทันสมัยและตอบโจทย์กับงานของคนยุคสมัยใหม่ จึงได้พัฒนาให้มีระบบการพิมพ์ในแบบเร่งด่วนทันใจ ไม่ต้องรอหลายวันสามารถรับงานได้เลย
สติ๊กเกอร์ PP เป็นการ พิมพ์สติ๊กเกอร์ เนื้อกระดาษที่มีความทนทานสูงสามารถทนความร้อนได้ดี มีความแข็งแรง ซึ่งคุณสมบัติย่อยก็ต้องแล้วแต่ ประเภทของกระดาษ ที่เลือกใช้ จะมีด้วยกัน 3 ประเภทคือ
- เนื้อกระดาษ ลักษณะ มีอยู่2 แบบด้วยกัน แบบขาวเงา และขาวด้าน คุณสมบัติของเนื้อกระดาษ จะเป็น งานพิมพ์ สติ๊กเกอร์ ราคาถูก ตอนนี้กระดาษ ไม่กันน้ำสามารถสินค้าได้ สามารถแช่เย็นได้บอกกับ พื้นผิว แบบถุงพลาสติก กล่องพลาสติก เป็นต้น ลักษณะของการพิมพ์ จะใช้ระบบอิงค์เจ็ท ซึ่งระบบนี้ตัวหมึก ในการพิมพ์ สามารถกันน้ำได้ตัวอักษรมีความเงางาม
- กระดาษ PVC สามารถเลือกได้หลายประเภทมีทั้งแบบ ใช้แบบผิวขาวมัน พื้นผิวขาวเงา แบบกระดาษใส คุณสมบัติของสติ๊กเกอร์รูปแบบนี้นั้น ทนความร้อนได้ 70 เปอร์เซ็นต์สามารถแช่แข็งได้ ตัวกระดาษมีความทนทานมีอายุการใช้งานที่นาน ระบบของการพิมพ์ จะใช้ระบบ อิงค์เจ็ท
- กระดาษคราฟท์ ตัวเนื้อกระดาษ มีลักษณะเด่นคือ เป็นสีน้ำตาล มีความคงทนแข็งแรง เหมาะสำหรับงานประเภทกล่องกระดาษ กล่องพลาสติก กล่องสำหรับใส่สินค้าเครื่องสำอางสามารถทนความชื้น ได้เบื้องต้น
สติ๊กเกอร์เนื้อฟิล์ม เนื้อกระดาษแบบฟิล์ม จะมีลักษณะ ของตัวสติ๊กเกอร์ ที่มีความมันเงา มีความทนทานฉีกขาดยาก ทนความร้อนและอากาศหนาว ผมทำความชื้นได้ดี จุดเด่นของเนื้อกระดาษ ประเภทนี้คือ เมื่อนำมาตีพิมพ์ จะมีลักษณะ ลายเส้นและขอบที่เด่นชัด เล่นแสง เหมาะสำหรับงานประเภท โลโก้แบบหรูหรา โดยแบ่งออกเป็น กระดาษ PP ใส เนื้อกระดาษ PP ขาวด้าน เนื้อกระดาษ PP ขาวทึบ เป็นต้น
พิมพ์สติ๊กเกอร์ มีรูปแบบการพิมพ์ 3 แบบ
ประเภทของการปริ้น งาน พิมพ์สติ๊กเกอร์ เป็นอีกหนึ่ง อย่างที่สำคัญ เพราะเมื่อเรา ได้ทำตามขั้นตอน ของการออกแบบ การเลือกประเภทของกระดาษให้เข้ากับ ตัว packaging หรือแม้กระทั่ง เลือกให้ สมดุลกับงบประมาณที่วางไว้ ประเภทของการตีพิมพ์ก็เช่นกัน เราสามารถเลือกการ พิมพ์สติ๊กเกอร์ราคาถูก เพื่อให้เหมาะสมกับสเปคงานที่วางไว้ ประเภทของการพิมพ์ มี 2 รูปแบบ ดังนี้
- การพิมพ์แบบดิจิตอล ( Digital ) เป็นประเภทการพิมพ์ที่มีความละเอียดสูง มีรายละเอียดของสีที่เด่นชัดเเละเส้นขอบที่คม เหมาะกับการปริ๊นงานแบบตราสัญลักษณ์ LOGO ที่เน้นขอบสี เน้นรูปทรง ข้อเสียคือ ไม่สามารถแยกสกรีนสีเเบบเดี่ยวได้เพราะขั้นตอนของการพิมพ์จะ ใช้ระบบสั่งการ ผ่านคอมพิวเตอร์ซึ่งหลักการ ในการใช้งานคอมพิวเตอร์โดยส่วนใหญ่ จะไม่สามารถแยกสีเพื่อการ Printสแกนสีได้เอง เป็นงานที่สามารถรอรับได้เลยเหมาะกับสติ๊กเกอร์รูปภาพ งานกระดาษที่ไม่ต้องเน้นรายละเอียดมากนัก และใช้ปริ๊นกับงานจำนวนน้อยๆ
- การพิมพ์แบบอ็อฟเซ็ท ( offset) เป็นระบบ การปริ้นสติ๊กเกอร์ ที่มีความละเอียดสูงมาก สามารถ พิมพ์ยังพิมพ์ได้บนผิว กระดาษได้ทุกรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นกระดาษมัน กระดาษหยาบ ผิวขรุขระ ก็สามารถเก็บรายละเอียด ได้ทุกอณู ที่สำคัญคือ สามารถแยกอนูของสีออกเป็นสัดส่วนตามที่ต้องการได้ การพิมพ์ในประเภทนี้ เหมาะกับงานที่ต้องการความละเอียดสูง Logo ตราสัญลักษณ์ ตัวอักษรมีขอบทองรูปแบบต่างๆ เป็นการพิมพ์ที่เหมาะสำหรับงานจำนวนมากๆ แต่ด้วยความละเอียดสูงของการพิมพ์รูปแบบนี้ ทำให้ใช้เวลานาน กว่าการพิมพ์รูปแบบอื่นๆ
- การพิมพ์แบบอิงค์เจ็ท เป็นอีกการพิมพ์ ที่มี ความละเอียด สูง สามารถพิมพ์ ตัวอักษร หรือวัตถุ ที่มีขนาดไม่เท่ากันได้ เป็นการพิมพ์ในลักษณะ การใช้น้ำหมึกแบบเดียวกับการปริ้นของระบบคอมพิวเตอร์ ซึ่งการพิมพ์รูปแบบนี้นั้นเป็นการพิมพ์ที่มีความประหยัดและราคาถูก เหมาะสำหรับงานพิมพ์ที่ไม่ต้องการความละเอียด แนะนำตัวอักษรมากนัก และเหมาะสำหรับ งานเอกสารที่พิมพ์ที่มีจำนวนมากอย่างเช่น หนังสือพิมพ์ นิตยสาร แผ่นพับ โบว์ชัวร์ เป็นต้น